วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิเคราะห์ภาพยนตร์ Jason Bourne ยอดจารชนคนอันตราย

วิเคราะห์ภาพยนตร์  Jason Bourne ยอดจารชนคนอันตราย


Jason Bourne Analysis

รายละเอียดทั่วไป


Jason Bourne

แมตต์ เดม่อน (Matt Damon) กลับมารับบทเป็นสายลับที่ถูกฝึกให้เป็นมือสังหาร (Jason Bourne) เจสัน บอนด์ โดยภาพยนตร์ Jason Bourne วางกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 28 กรกฎาคม 2016 กำกับโดย พอล กรีนกลาส (Paul Greengrass) ส่วนทีมนักแสดงสมทบ ได้แก่ จูเลีย สไตลส์ (Julia Stiles), อลิเซีย วิกันเดอร์ (Alicia Vikander), วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) รวมถึง ทอมมี่ ลี โจนส์ (Tommy Lee Jones) ในบทเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการแห่ง CIA

นอกจากนี้ กรีนกราสส์, เดม่อน, เกร็กกอรี กู๊ดแมน และเบน สมิธ ยังร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก
www.kapook.com
www.majorcineplex.com
www.imdb.com

รีวิวภาพยนตร์  Jason Bourne ยอดจารชนคนอันตราย


Jason Bourne Review

เรื่องราวโดยย่อจะเกี่ยวกับการกลับมาเพื่อเรียกความทรงจำเก่า ๆ กลับคืนมาและกำลังจะบอกได้ว่าตัวเองเป็นใคร โดยเขาต้องหาคำตอบว่าสิ่งใดเป็นเรื่องจริงหรือโกหก ภายใต้เรื่องราวที่พูดถึงสงครามไซเบอร์ ไปจนถึงความตื่นตัวเรื่องการสอดส่องจากรัฐบาล ซึ่งปลุกกระแสโดย เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden)

หลังจากที่ผมได้ดูแล้วบอกได้เลยว่าคุ้มค่าตั๋วมาก ด้วยฉากแอ็คชั่นทริลเลอร์ ฉากไล่ล่าสุดมันส์ และฉากต่อสู้ด้วยมือเปล่าหรือเอาสิ่งรอบตัวมาเป็นอาวุธบวกกับฝีมือการแสดงของแมตต์ เดม่อน ที่เข้าถึงบทบาทนี้ได้อย่างสุดยอด ทำให้หนังเรื่องนี้มีความสมจริงสมจังมาก ที่กลายเป็นจุดขายของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ หนังดำเนินเรื่องได้อย่างกระชับและรวดเร็ว ทำให้ดูแล้วไม่น่าเบื่อ แถมยังมีการผูกปมเอาไว้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทำให้หนังยิ่งน่าติดตามเข้าไปอีก กว่าจะรู้ตัวอีกทีหนังก็เกือบจะจบแล้ว

สิ่งที่จะน่าทำให้ผู้ที่ได้ชม ชอบและประทับใจหนังเรื่องนี้คือ ไหวพริบของตัวละคร ที่ต้องมาชิงไหวชิงพริบกันเอง เพื่อให้มีชีวิตรอด และเรื่องราวของการโจมตีเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งใครที่มีความชอบหรือเรียนด้าน Computer Security ต้องชอบหนังเรื่องนี้แน่นอน

ความรู้ที่ได้จากภาพยนตร์


Edward Joseph Snowden

หนังเรื่องนี้ได้มีการกล่าวถึง เอ็ดเวิร์ด โจเซฟ สโนว์เดน (Edward Joseph Snowden)
ซึ่งเป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองชาวอเมริกัน ผู้ปล่อยข่าวรายละเอียดของโครงการการสอดส่องดูแลมวลชนลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐและอังกฤษหลายโครงการแก่สื่อ สโนว์เดนเป็นอดีตผู้รับจ้างเทคนิคของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐ และอดีตลูกจ้างของหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (ซีไอเอ)

สโนว์เดนปล่อยสารสนเทศดังกล่าวแก่หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษเป็นหลัก ในฤดูใบไม้ผลิปี 2556 ขณะรับจ้างเป็น "นักวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐาน" ของผู้รับจ้างเอ็นเอสเอ เดอะการ์เดียนตีพิมพ์ชุดการเปิดโปงในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ปีเดียวกัน และเปิดเผยโครงการต่าง ๆ เช่น การดักเมทาดาทา (metadata) โทรศัพท์ของสหรัฐและยุโรป และโครงการสอดส่องดูแลอินเทอร์เน็ต อย่าง ปริซึม ฯลฯ กล่าวกันว่าการเปิดเผยความจริงของสโนว์เดนจัดเป็นการฝ่าฝืนความมั่นคงของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐ

อ้างอิงจาก wikipedia.org

วิเคราะห์ความเป็นไปได้


Jason Bourne Analysis

วิเคราะห์ความเป็นไปได้โดย MoviesPresent

กรณีที่หนึ่ง วิเคราะห์เนื้อเรื่องด้านเทคนิค
จากหนังจะเห็นว่ามีการโจมตีเข้า Mainframe Server Database โดยใช้ SQL และเทคนิคอื่นๆ และมีการย้อนการโจมตีโดนใช้ Shellcode ซึ่งเจ้าตัว Shellcode นี้มันก็คือ Machine Code นั่นเอง ทำให้ผมนึกถึงภาษา Assembly ขึ้นมาเลย และมีการฝัง Malware กลับไปยังอุปกรณ์ที่โจมตี และมีการสั่งตัดไฟฟ้าทั้งตึก ในความเป็นจริงแล้วสามารถทำได้ ถ้าคนที่โจมตีเป็นคนที่เคยทำงานกับระบบนี้มาก่อนหรือรู้เรื่องระบบนี้เป็นอย่างดี กรณีนี้ผมว่าหนังทำออกมาได้ดีไม่ถือว่าเวอร์จนเกินไป

กรณีที่สอง วิเคราะห์เนื้อเรื่องด้านเทคนิค
ในหนังมีฉากที่ เจสัน บอนด์ มาตรวจพาสปอร์ตที่ด่านตรวจคนที่สนามบิน แล้วก็มีคนช่วยให้พาสปอร์ตปลอมของเขาผ่านเข้ามาได้ ซึ่งทำโดยในนามของเจ้าหน้าที่ CIA ของทางการเป็นผู้อนุมัติ กรณีก็ถือว่าเป็นไปได้

กรณีที่สาม วิเคราะห์เนื้อเรื่องด้านเทคนิค
ในฉากที่มีการ Remote Access เข้ามายังโทรศัพท์มือถือ แล้วทำการ Bypass เพื่อควบคุมตัวอุปกรณ์ ผมถือว่าหนังทำออกมาได้โอเค เพราะโทรศัพท์เป็นโทรศัพท์ของ Hacker ที่มีระบบความปลอดภัยที่เป็น Firewall ถึงสามชั้นกว่าจะเข้าได้ แต่เวลาของการทำ Decryption เพื่อเข้าดู files และการทำ Bypass เร็วเกินไปครับ

กรณีที่สี่ วิเคราะห์เนื้อเรื่องหนัง
ในฉากไล่ล่าบนถนน ผมไม่เห็นการยิงลูกซองขณะขับรถเหมือนในตัวอย่างหนัง จึงคาดเดาได้ว่ามีการถูกตัดออกไปหลายฉาก และหนังเรื่องนี้อาจจะมีหรือไม่มีภาคต่อไปก็ได้ เพราะฉากตอนจบค่อนข้างเป็นปลายเปิด ส่วนตัวแล้วผมอยากให้มี

กรณีที่ห้า วิเคราะห์การต่อสู้ของ เจสัน บอนด์
เป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) เรื่องนี้ผมไม่ถนัด แต่มีผู้เชียวชาญวิเคราะห์ไว้แนะนำให้ไปดูที่ https://champions.co/posts/3877810 แล้วจะรู้ว่าใช้ศิลปะการต่อสู้แขนงไหนบ้าง

คำเตือน


Jason Bourne

ต่อจากนี้จะเป็นเนื้อหาสปอยแหลกครับ ใครที่ยังไม่ได้ดูอย่าพึ่งอ่านครับ เดี่ยวไม่ตื่นเต้น
ถือว่าผมเตือนแล้วนะ ส่วนใครที่ดูแล้วไม่เข้าใจ เชิญดูต่อไปได้










--------------------------------------------------------

สปอยและสรุป Jason Bourne ยอดจารชนคนอันตราย


Jason Bourne Spoiler

เริ่มเรื่องมาด้วยการที่ Jason Bourne กำลังฝันและเริ่มจำเรื่องราวได้ทุกอย่างได้ ขณะที่เขากำลังเดินทางไปชกมวย(พันมือตั้งนานต่อยกันหมัดเดียว) ขณะที่ Nicky Parsons กำลังเจาะระบบเข้าไปดูแฟ้ม BlackOperation จากนั้นหัวหน้าแผนกไซเบอร์เจ้าหน้าที่ Heather Lee ก็พยายามสืบหาตัว hacker เรื่องรู้ถึงหู CIA Director Robert Dewey

เรื่องมันร้อนแรงมากจนเจ้าพ่อ social media อย่างAaron Kalloor (บทบาทประมาณ Mark Zuckerberg)ต้องถูกนัดมาเจอกัน เพื่อล่า Nicky Parsons เรื่องมันเลยลามไปถึง Jason Bourne ขณะที่ Robert Dewey ได้ติดต่อไปที่ Asset ซึ่งเป็นสายลับที่ถูกฝึกให้มาเป็นมือสังหาร เพื่อให้มาจัดการเรื่องนี้ จากนั้น Nicky Parsons ก็เริ่มไปตามหา Jason Bourne

ที่เอเธนส์เพื่อนัดพบกันในขณะที่มีการเหตุการณ์ประท้วง ก็ได้คุยกันแฟ้มข้อมูลซึ่งไปเกี่ยวกับเรื่องพ่อของ Jason Bourne ก่อนที่จะถูกตามล่า ผลคือ Nicky Parsons ถูกยิงตาย แต่ก่อนตายยังให้แฟลชไดร์ฟไว้กับ Jason Bourne (ตอนนั้นผมดูแววตา Jason Bourne แล้วรู้เลยว่า Asset มึงไม่ได้ตายดีแน่) ที่ Asset มันแค้น Jason Bourne เพราะว่าตอนที่โครงการ Blackbriar ถูกเปิดโปงมันดันไปแฝงตัวอยู่ เลยถูกจับไปทรมาณ 2 ปี จากนั้น Jason Bourne ก็ได้ไป

ที่เบอร์ลินไปหา hacker ที่ชื่อ Christian Dassault เพื่อถอดรหัสไฟล์จากแฟลชไดร์ฟ และได้ข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการคัดเลือกสายลับเพื่อเข้า Treadstone ขึ้นมาหนึ่งชื่อคือ Malcolm Smith ขณะที่ Heather Lee ก็พยายามติดต่ออย่างลับๆกับJason Bourne เพื่อซื้อใจให้เขากลับมา

Jason Bourne เดินทางไปที่ลอนดอนเพื่อหาตัว Malcolm Smith ด้าน CIA ก็ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ นำทีมโดย Heather Lee ที่ถูกหลอกให้ทำงานกับ Asset โดยมี Robert Dewey ชักใยอยู่เบื้องหลัง ผลจากการไล่ล่าครั้งนี้ Malcolm Smith ถูกยิงตาย แต่ก่อนตาย Jason Bourne ก็ได้รู้ความจริงว่าพ่อตายไม่ใช่เพราะผู้ก่อการร้าย แต่เป็นการจัดฉาก และรู้ตัวคนฆ่าก็คือ Asset (แค้นคูณสอง)จากนั้นเขาได้พบกับ Heather Lee และได้รู้ว่า Robert Dewey จะพบกับ Aaron Kalloor ที่ลาสเวกัส

ขณะที่ Robert Dewey กำลังวางแผนฆ่า Aaron Kalloor ในงานแสดงเทคโนโลยีที่ลาสเวกัส ผลคือ Aaron Kalloor ถูกยิงเพราะจะไปบอกเรื่องที่ทำสัญญากับ CIA แต่ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ไม่ตายเพราะ Jason Bourne ไปขวาง Asset ไว้ทัน จากนั้นทั้ง Jason Bourne และ Asset ก็ถูกตามล่าทั้งคู่ Jason Bourne ได้บุกไปหา Robert Dewey ถึงห้อง Robert Dewey ตายเพราะถูก Heather Lee ยิง ในจังหวะชุลมุน ตอนที่ Jason Bourne แลกกระสุนกับ Craig Jeffers ผลคือ Craig Jeffers ตาย Jason Bourne ถูกยิงบาดเจ็บ

จากนั้นเขาได้ไปตามล่า Asset ฉากไล่ล่ากันบนท้องถนนในลาสเวกัสมันส์มาก Jason Bourne ได้ฆ่า Asset และแล้วฉากที่จะเป็นตำนานในภาคนี้ก็มาถึง (หลังจากที่ภาคก่อนๆเขาได้ใช้ ปากกาสู้กับมีดในภาค The Bourne Identity,นิตยสารสู้กับมีดในภาคThe Bourne Supremacy,ผ้าขนหนูสู้กับมีดโกนในภาค The Bourne Ultimatum ) ภาคนี้เขาใช้กระป๋องเก็บของสู้กับมีดให้ดู ซึ่งฉากสู้นี้ต้องเป็นตำนานของเขาอีกแน่นอน

จากนั้นฉากก็ตัดไปที่ Heather Lee ที่ไปคุยกับ Director NI Edwin Russell บนรถ ว่าหลังจากที่พยายามซื้อใจ Jason Bourne มาเธอน่าจะกล่อมให้เขากลับมาได้ ถ้าไม่ได้ก็จะฆ่าทิ้ง แต่ Jason Bourne ดันรู้ทัน เขาก็เลยเดินจากไปแบบเท่ๆ.

เรียบเรียงโดย MoviesPresent


แนะนำเพิ่มเติมหรือพูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กันได้ครับ
ฝากกด share ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น